
ประวัติของ Cloud Computing
Cloud Computing หรือ “การประมวลผลแบบคลาวด์” มีรากฐานมาจากแนวคิด “Time-sharing” ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ซึ่งเป็นการแบ่งปันทรัพยากรคอมพิวเตอร์ระหว่างผู้ใช้หลายคน นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชื่อ John McCarthy ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับ “Utility Computing” ซึ่งเป็นแนวคิดพื้นฐานของ Cloud Computing ในปัจจุบัน
ในช่วงปี 1990 เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายคอมพิวเตอร์เริ่มก้าวหน้า ทำให้เกิดโมเดลการให้บริการใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องมีเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง ในปี 2006 Amazon เปิดตัว Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่รายแรก ตามมาด้วย Microsoft Azure และ Google Cloud Platform ซึ่งช่วยให้ธุรกิจและองค์กรทั่วโลกสามารถเข้าถึงระบบไอทีที่มีประสิทธิภาพสูงได้ในต้นทุนที่ต่ำลง

Cloud Computing คืออะไร?
Cloud Computing เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากรคอมพิวเตอร์ เช่น เซิร์ฟเวอร์ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล และแอปพลิเคชัน ผ่านทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่จำเป็นต้องซื้อหรือดูแลฮาร์ดแวร์เอง โดยแนวคิดหลักของ Cloud Computing คือ การให้บริการตามต้องการ (On-demand service) และ การจ่ายตามการใช้งาน (Pay-as-you-go) ซึ่งช่วยให้ธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไปสามารถใช้ทรัพยากรไอทีได้อย่างคุ้มค่าและยืดหยุ่นมากขึ้น
ประเภทของ
Cloud Computing
-
Public Cloud คืออะไร?
Public Cloud คือระบบ Cloud ที่ให้บริการโดยบริษัทผู้ให้บริการภายนอก (Third-party Providers) เช่น AWS, Microsoft Azure, Google Cloud ซึ่งผู้ใช้สามารถเช่าใช้ทรัพยากรผ่านอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์เอง Public Cloud มีข้อดีคือ ต้นทุนต่ำ, ขยายขนาดได้ง่าย (Scalability) และ สามารถเข้าถึงบริการจากทุกที่ อย่างไรก็ตาม Public Cloud อาจมีข้อกังวลด้านความปลอดภัย เพราะข้อมูลถูกเก็บไว้ในศูนย์ข้อมูลของผู้ให้บริการ

-
Private Cloud คืออะไร?
Private Cloud คือระบบ Cloud ที่องค์กรเป็นเจ้าของและบริหารจัดการเอง หรือใช้บริการจากผู้ให้บริการเฉพาะสำหรับองค์กรนั้นๆ Private Cloud มอบ ความปลอดภัยสูง, การควบคุมทรัพยากรที่ดีกว่า, และ สามารถกำหนดค่าตามความต้องการเฉพาะขององค์กร อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและดูแลรักษาจะสูงกว่า Public Cloud เพราะองค์กรต้องจัดการโครงสร้างพื้นฐานเอง

-
Hybrid Cloud คืออะไร?
Hybrid Cloud เป็นการผสมผสานระหว่าง Public Cloud และ Private Cloud ทำให้สามารถใช้งานทรัพยากรได้อย่างยืดหยุ่น เช่น องค์กรอาจใช้ Private Cloud สำหรับเก็บข้อมูลที่มีความสำคัญและต้องการความปลอดภัยสูง ในขณะที่ใช้ Public Cloud สำหรับงานที่ต้องขยายขนาดได้รวดเร็ว เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) Hybrid Cloud ช่วยให้ธุรกิจได้รับประโยชน์จากทั้งสองระบบ โดยสามารถเพิ่มความปลอดภัยและลดต้นทุนได้พร้อมกัน
